skin care essentials
ไม่ว่าคุณจะประเมินตัวเองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือมือใหม่ด้านการบำรุงผิว คุณก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า การปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันความหมองคล้ำ จุดด่างดำ และริ้วรอย ซึ่งเผ็นสัญญาณของผิวแก่ก่อนวัยที่มองเห็นได้ชัด ดังนั้น SPF จึงกลายเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในทุกขั้นตอนการดูแลผิว ในขณะที่คุณน่าจะคุ้นเคยกับคำนี้มามากพอแล้วเพราะความเกี่ยวพันของมันกับครีมกันแดด แต่คุณเคยสงสัยไหมว่า SPF ย่อมาจากอะไร ? หากเคยสงสัย ก็ไม่ใช่คุณเพียงคนเดียวหรอก เราพนันได้เลยว่า มีผู้คนเป็นจำนวนมากกว่าที่คุณคิดล้วนไม่รู้ว่า SPF หมายถึงอะไร และทำหน้าที่อะไร หากคุณพร้อมที่จะเพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับการดูแลผิวพรรณจากแสงแดดแล้วล่ะก็ นี่จะถือเป็นบทเรียนง่าย ๆ ให้อ่านไปเรื่อย ๆ เพราะเราได้แจกแจงว่า SPF คืออะไร
SPF ย่อมาจากอะไร ?
เข้าประเด็นกันเลย : SPF ย่อมาจากอะไร? อ้างอิงจากองค์การอาหารและยา (FDA) SPF ย่อมาจาก sun protection factor (ค่าที่บ่งบอกความสามารถในการป้องกันรังสี UVB) เมื่อคุณเข้าไปในร้านขายยาข้างทาง ตามผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดทุกตัว คุณจะเห็นว่ามีตัวเลขที่ระบุ sun protection factor ของมันอยู่ ค่าตัวเลขเหล่านี้จะปรากฎบนผลิตภัณฑ์ที่มีสูตรช่วยป้องกันรังสี UV อันรุนแรงจากแสงแดด อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์รองพื้นและมอยส์เจอไรเซอร์ที่มี SPF ตัวเลขค่า SPF ที่เห็นบนผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะทำให้คุณรู้ถึงความสามารถในการป้องกันของมัน FDA อธิบายไว้ว่า ค่า SPF ยิ่งสูงก็ชี้ให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยิ่งสามารถป้องกันแสงแดดได้มาก ระดับสูงสุดของครีมกันแดดในท้องตลาดอยู่ที่ SPF50+ ครีมกันแดดที่ดีที่สุดอย่าง L’OREAL UV Perfect Matte & Fresh ก็มีค่าการป้องกันแสงแดดสูงสุด ที่ SPF50+ เช่นกัน สิ่งที่ควรจำใส่ใจเอาไว้ก็คือ ค่า SPF เพียงแค่บอกให้คุณรู้ว่า ผลิตภัณฑ์นั้นปกป้องผิวของคุณจากรังสี UV บางชนิด จากข้อมูลของ FDA ค่า SPF มาจากการตรวจสอบเพื่อหาค่าว่าผิวปกติจะป้องกันอย่างไรจากอาการไหม้แดด ซึ่งมีสาเหตุมาจากรังสี UVB มีสิ่งหนึ่งที่ค่า SPF ไม่ได้บ่งบอก ? มันไม่ได้มีความเกี่ยวพันกับระยะเวลาที่เราสามารถอยู่กลางแจ้งได้นานแค่ไหน! FDA ออกมาบอกว่า นี่คือความเชื่อผิด ๆ ที่ว่า ค่า SPF15 หมายถึง คุณสามารถอยู่กลางแดดได้ 15 ชั่วโมงค่า SPF ระดับไหนที่เราควรใช้ ?
คุณรู้ว่า มีความแตกต่างในระดับค่า SPF แต่ระดับไหนล่ะที่เราควรใช้ ? คำตอบนั้นแปรผันไปตามหลากหลายปัจจัย สมาคมแพทย์ผิวหนังสหรัฐอเมริกา (AAD) เปิดเผยว่า ค่า SPF15 คัดกรองรังสี UVB จากแสงแดดออกมาได้ประมาณ 93% ในขณะที่ค่า SPF30 สามารถคัดกรองรังสี UVB จากแสงแดดออกมาได้ 97% และอ้างอิงจากข้อมูลของมูลนิธิโรคมะเร็งผิวหนัง ค่า SPF50 คัดกรองออกมาได้ประมาณ 98% ครีมกันแดดที่ดีที่สุดอย่าง L’OREAL UV Perfect Matte & Fresh มีค่าการป้องกันแสงแดดสูงสุด ที่ SPF50+ จึงสามารถคัดกรองรังสี UVB จากแสงแดดออกมาได้ถึง 98% เฉดสีผิวของคุณสามารถแสดงบทบาทเป็นระดับค่า SPF ที่คุณต้องการใช้ได้ โดย FDA แนะนำว่า ทุกคนควรใช้ครีมกันแดดแบบ broad-spectrum (ซึ่งสามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB) ที่มีค่า SPF15 หรือสูงกว่านั้น และสำหรับผู้ที่มีผิวขาว เขาอธิบายว่า คุณน่าจะต้องเลือกสูตรที่มีค่า SPF30 หรือ SPF50 จึงจะเหมาะสม ครีมกันแดดที่ดีที่สุดอย่าง L’OREAL UV Perfect Matte & Fresh มีค่าการป้องกันแสงแดดสูงสุด ที่ SPF50+ จึงเหมาะสำหรับผิวทุกเฉดสีเรื่องอื่นที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการป้องกันแสงแดด
ค่า SPF ไม่ใช่ทุกสิ่งเมื่อเอ่ยถึงการดูแลผิวจากแสงแดด นอกจากการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF อยู่ในระดับที่เหมาะสม คุณยังจำเป็นต้องทาครีมกันแดดซ้ำ (อย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง หรือทันทีหลังจากว่ายน้ำหรือเหงื่อออก) และใช้วิธีอื่น ๆ ในการป้องกันแสงแดดควบคู่ไปด้วย ซึ่ง FDA แนะนำให้จำกัดเวลาออกแดด , มองหาร่มเงาหลบแดด , ปกปิดบริเวณที่เปิดเผยด้วยเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวกปีกกว้าง และแว่นกันแดดแบบป้องกันรังสี UV ได้ ครีมกันแดดที่ดีที่สุดอย่าง L’OREAL UV Perfect Matte & Fresh มีขนาดพกพาเหมาะสำหรับพกติดกระเป๋าได้ในทุกวัน หาซื้อได้ที่เซเว่นอีเลฟเว่นผลิตภัณฑ์เสริมความงามของเราที่มี SPF
นอกจากใช้ครีมกันแดด คุณยังสามารถแนะนำผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ SPF เพิ่มเติมเข้าไปในขั้นตอนของคุณได้ ใช้มันตามที่กำกับไว้ รวมทั้งทาซ้ำ ก็จะช่วยปกป้องผิวได้วิธีที่การทา SPF
การทา SPF อย่างง่าย ๆ ไม่จำเป็นต้องพลิกแพลงอะไร ก็ช่วยปกป้องผิวของคุณได้แล้ว ทางเดียวที่จะได้รับการปกป้องอย่างเต็มประสิทธิภาพก็คือต้องทา SPF ของคุณอย่างถูกวิธีเคล็ดลับ #1 ทาครีมกันแดดก่อนออกไปข้างนอก
อ้างอิงจาก FDA การทาครีมกันแดด 15 นาทีก่อนออกจากบ้านเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ มันจะช่วยให้เวลากับครีมกันแดดมากพอที่จะปกป้องผิวของเราจากอันตรายอันเกิดจากแสงแดดได้เคล็ดลับ #2 ทาให้ทั่วใบหน้าและร่างกายของคุณ
เนื่องจากรังสีของดวงอาทิตย์สามารถพุ่งเป้าไปยังผิวส่วนต่าง ๆ ได้ จึงจำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดมากพอที่จะทาได้ทั่วใบหน้าและร่างกายของคุณ โดย FDA แนะนำว่า ส่วนมากผู้ใหญ่และเด็กจำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดอย่างน้อย 1 ออนซ์ เพื่อให้ทาได้เรียบร้อย นอกจากนี้ครีมกันแดดที่ดีที่สุดอย่าง L’OREAL UV Perfect Matte & Fresh มีเนื้อบางเบา ซึมเร็ว สบายผิว จึงทาได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะเคล็ดลับ #3 ทาซ้ำ ทาซ้ำ ทาซ้ำ !
เราเคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่งหรือ 2 ครั้งแล้ว แต่มันไม่มีปัญหาที่จะย้ำอีกครั้ง : คุณจำเป็นต้องทาครีมกันแดดซ้ำ ยามเมื่อคุณสนุกสนามอยู่กลางแจ้ง การทาครีมกันแดดซ้ำอาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายในหัวของคุณ แต่มันจำเป็นจริง ๆดังนั้นอย่าลืมพกครีมกันแดดที่ดีที่สุดอย่าง L’OREAL UV Perfect Matte & Fresh ขนาดพกพาติดกระเป๋าไว้สำหรับทาซ้ำ หาซื้อได้ที่เซเว่นอีเลฟเว่น