เทรนด์เมคอัพ 2023 มีอะไรบ้าง
Grunge Lashes
เริ่มที่ Grunge Lashes ยังคงเป็นเทรนด์เมคอัพที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ใช้เทคนิคแต่งขนตาโดยใช้มาสคาร่าปัดให้เด่น ฟู หนาทั้งขนตาบนและขนตาล่าง การแต่งหน้าสไตล์ Grunge Lashes จะเด่นเฉพาะส่วน และไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าจัดทั้งใบหน้า
Glow Skin Details
ต่อกันที่เทรนด์ Glow Skin Details พูดแบบให้เห็นภาพชัด ๆ คือการลงงานผิว ให้ผิวดูละเอียด ฉ่ำ โกลว์ ชุ่มชื้นทั่วทั้งใบหน้า เทคนิคและเทรนด์นี้จะทำให้ผิวดูมีสุขภาพดีและมีความเป็นธรรมชาติสูงสุด ๆ ไปเลยค่ะ
Bold Blush
เทรนด์ที่สาม Bold Blush จะเน้นไปที่การแต่งแก้ม ใช้รองพื้นที่มีเนื้อโกลว์ บลัชออนแบบครีม แมทท์ผิววาว เบลด์ให้ทั่วแก้ม ใบหน้าจะดูสดใสขึ้นมาทันที นอกจากนี้ผลจากการใช้บลัชออน จะทำให้ผิวดูธรรมชาติ ดูเรียลไปหมดเลยค่ะ
Barely Brows
สำหรับ Barely Brows เป็นเทรนด์เมคอัพที่คิดค้นมาเพื่อเอาใจสาวคิ้วบางโดยเฉพาะ เพราะจะเมคอัพแบบไม่เน้นงานคิ้ว ให้คิ้วดูน้อย ๆ คิ้วเปลือย แต่งเส้นเล็ก ๆ สีอ่อน ๆ ดูกลืนไปกับผิวหน้า เพื่อชูองค์ประกอบอื่น ๆ บนใบหน้าอย่างตา แก้ม หรือปากมากกว่า
Bronzed Skin
Bronzed Skin เทรนด์ที่ตอบโจทย์ของคนผิวสีแทน เพราะเป็นสีผิวที่มาแรงสุด ๆ ในปีนี้เลยก็ว่าได้ การเมคอัพจะใช้สีน้ำตาล สีประกายทอง หรือสีแทนเข้ามาผสมด้วยกัน หลังลงงานผิว จะให้ความรู้สึกผิวสีแทนเหมือนคนที่เพิ่งอาบแดดมาเลยก็ว่าได้
Cloud Skin
เทรนด์สุดท้าย ไม่พูดถึงไม่ได้ กำลังได้รับความนิยมสุด ๆ Cloud Skin หรือการแต่งงานผิวที่ดูซอฟท์ประหนึ่งปุยเมฆ แน่นอนว่าพอเป็นเรื่องงานผิว การเมคอัพจึงต้องใช้ผลิตภัณฑ์เนื้อแมทท์ เนื้อบางเบา สบายผิว ไม่หนักหน้า และจะให้ดีขึ้นกว่าจุดเด่นเหล่านี้ ต้องเป็นเมคอัพที่ช่วยบำรุงผิวในเวลาเดียวกันไปด้วย เพื่อให้ผิวดูเป็นธรรมชาติ ไม่แตกต่างจากผิวจริงจนเกินไป
คอมพลีทลุคด้วยรองพื้นเนื้อแมทท์จาก L’Oreal Paris
จากที่เห็นเทรนด์เมคอัพประจำปี 2023 กันไปแล้ว ซึ่งมีให้เลือกแมชต์ลุคได้ตามความชอบมากถึง 6 เทรนด์ แต่เทรนด์ที่ต้องยอมรับเลยว่ามาแรง และกำลังได้รับความนิยมมาก ๆ ทั้งในและนอกวงการเมคอัพ บิวตี้บล็อกเกอร์ ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียว คือ เทรนด์ Cloud Skin ที่ลงงานผิวให้ดูซอฟท์ ในส่วนนี้ L’Oreal Paris ก็ได้รวบรวมวิธีการเมคอัพไว้แล้ว จะมีดีเทลการแต่งผิวยังไง ไปดูกันได้เลยค่ะ
ปรับสภาพผิวและลงรองพื้น
ปรับสภาพผิว มีความสำคัญมาก โดยต้องให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก เมื่อปรับสภาพผิวเรียบร้อย ขั้นตอนต่อมาเป็นการลงรองพื้น ขอแนะนำ
อินฟอลลิเบิล 32เอช แมท คัฟเวอร์ ฟาวเดชั่น รองพื้นที่ช่วยบำรุงผิว ปรับสภาพผิวให้ดูสม่ำเสมอได้ภายใน 4 สัปดาห์** เป็นเนื้อแมทท์ มีส่วนผสมไนอาซินาไมด์ 4% จึงช่วยปลอบประโลมผิว ปกปิดได้ดี ในขณะที่ยังคงมีความบางเบา ติดทนยาวนานมากถึง 32 ชม.
ลงบรอนเซอร์เนื้อแมทท์
บรอนเซอร์เนื้อแมทท์จะช่วยเพิ่มความนุ่มนวล และเนรมิตให้ผิวดูมีสุขภาพดี ที่สำคัญช่วยเพิ่มมิติและทำให้ใบหน้าคมมากยิ่งขึ้น แต่ขอบอกนิดนึง ไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับบรอนเซอร์เนื้อแมทท์ ในบางคนใช้แล้วอาจจะทำให้ผิวหมองคล้ำลงได้ ต้องรู้จักผิวและรู้จักเลือกเครื่องสำอางก่อนใช้ค่ะ
ทาอายแชร์โดว์เนื้อแมทท์
การทาอายแชร์โดว์เนื้อแมทท์ อยากแนะนำให้ลองเลือกสีโทนกลาง ๆ ที่ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อให้หน้าดูซอฟท์ สามารถเลือกใช้โทนสีเดียวกันได้ทั้งแต่งหน้าตอนกลางวันและกลางคืน
ลงแป้งเนื้อแมทท์
อีกหนึ่งความลับของลุค Cloud Skin คือการเลือกแป้งค่ะ ต้องเลือกแป้งเนื้อแมทท์ เมื่อทาหลังจากที่ใช้รองพื้นเนื้อแมทท์ไปแล้ว จะยิ่งเพิ่มความทวีคูณให้ผิวดูบางเบา นุ่มนวล ผิวดูอิ่มฟู ดูสุขภาพดีมาก ๆ เลยค่ะ อย่าลืมนะคะ แป้งแมทท์กับรองพื้นแมทท์ จับคู่ชูงานผิวค่ะ
ทาลิปสติกเนื้อแมทท์
ปิดท้ายด้วยทาลิปเนื้อแมทท์ เพื่อคอมพลีทลุค Cloud Skin โดยใช้เฉดสีโทนอุ่น แดง หรือโทนชมพู จะยิ่งทำให้ใบหน้าส่วนอื่น ๆ ดูซอฟท์ลง แต่ก็ยังคงความสุขภาพดี หรือจะใช้ลิปบาล์มเพิ่มความเงา ให้เข้ากับลุคแบบร้อยเต็ม
เป็นยังไงกันบ้างคะกับเทรนด์เมคอัพ 2023 จาก Vouge Beauty Thailand ที่เรานำมาอัพเดท รวมถึงเทคนิคเมคอัพแบบ Cloud Skin อย่าลืมไปลองแต่งกันดูนะ รอบหน้าถ้ามีเทรนด์อะไรปัง ๆ เริ่ด ๆ เดี๋ยวจะรีบมาบอกอีกเหมือนเดิม